ผู้คนส่วนใหญ่ติดค้างอยู่กับโลกภายนอกโดยไม่รู้ตัว ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ที่ทำให้เราต้องส่งจิตออกนอกตัว หรือไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องราวและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมภายนอกมากมาย จนทำให้จิตใจภายในของเรายุ่งเหยิง วุ่นวาย ขาดประสิทธิภาพที่จะมีความสุขหรือหยั่งรู้ธรรมชาติที่แท้จริงในตัวเขาเอง และในที่สุดก็หลงทาง…
*
“โลกภายนอกก็คือผู้คน สังคม และสิ่งล่อใจทั้งหลายทั้งปวง
โลกภายในก็คือความตระหนักรู้ การกลับมารู้สึกตัวและเข้าใจตัวเอง
โลกภายในจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่สร้างความตื่นรู้ของโลกภายในตัวเรา ซึ่งเป็นตัวประสานระหว่างโลกภายนอกและโลกภายใน
*
โลกภายใน ได้แก่ ความคิด ความจำ และความรู้สึก
ขณะที่โลกภายนอกมีการแสดงออก ทั้งคำพูดและการกระทำ”
ยิ่งโลกภายนอกในยุคปัจจุบันดึงดูดเราให้หลงจมอยู่กับเทคโนโลยี และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำให้โอกาสที่เราจะเข้าถึงโลกภายในสูญสลายไปอย่างน่าเสียดาย
*
“ผมอยากบอกว่าโลกภายในทำให้เราพบความสุขที่แท้จริง
โลกภายในทำให้เราพบชีวิตที่ยิ่งใหญ่
โลกภายในทำให้เราเข้าใจตัวเราเองอย่างลึกซึ้ง
โลกภายในทำให้เราปลดล็อกความวุ่นวายจากโลกภายนอกได้อย่างแท้จริง
และสิ่งสำคัญที่เราต้องทำในวันนี้คือ เราต้องปลดปล่อยโลกภายนอกให้ได้ก่อน”
*
เราต้องตัดความวุ่นวายและความรับรู้ในการเก็บข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าการดูโทรทัศน์ ฟังข่าวร้าย ฟังเรื่องราวด้านลบ ฟังคนพูดจาแต่เรื่องไม่ดี เป็นต้น
*
หากเราเปิดรับแต่เรื่องราวในด้านลบอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดโลกภายนอกก็จะเข้ามาคุมโลกภายใน เราจะไม่ได้พบความสงบสุขเลย แต่ละวันมีเรื่องราวที่ทำให้ทุกข์ทรมานใจ ทำให้เราไม่มีความสุข ทำให้เรารู้สึกถูกกดดัน
*
ฉะนั้น จำเป็นต้องปลดปล่อยโลกภายนอกก่อนจึงจะทำให้โลกภายในเกิดความตื่นรู้ เมื่อปลุกโลกภายในให้ตื่นขึ้นได้ก็ทำให้โลกภายนอกสลายไปได้โดยฉับพลัน นี่คือความจริงของการโค้ชชีวิตหรือโค้ชตัวเองในระดับของ”โค้ชพลังจิต ” เพื่อให้เราเข้าถึงพลังอย่างไร้ขีดจำกัด และเข้าถึงความตระหนักรู้ของชีวิตอย่างแท้จริง
—>> กฎแห่งแรงดึงดูด สร้างได้จากจิตภายใน” —
คุณเข้าใจชีวิตตัวเราเองมากน้อยแค่ไหน…….ในสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ?
การมีชีวิตอยู่อย่างเข้าใจตนเอง สามารถเลือกวิถีชีวิตของตนเองได้อย่างเหมาะสมกลมกลืน กับความปรารถนาที่แท้จริงของชีวิต
– โค้ชส่วนตัว ปลดล็อคชีวิต
กระบวนการโค้ชส่วนตัว คือกระบวนการเปลี่ยนระบบจิตภายใน ทั้งระบบจิตใต้สำนึกและจิตไร้สำนึก ที่เป็นระบบจิตภายในที่ควบคุมพฤติกรรม รวมถึงกำหนดชะตาชีวิตของแต่ละบุคคลผ่านความทรงจำในอดีต ซึ่งความทรงจำเหล่านี้นี่เองที่เปรียบเสมือนปมปัญหาทั้งหลายจนกลายเป็นขยะทางความคิดและอารมณ์ที่ถูกพอกพูนจนกลายเป็น “ความเชื่อ”
หรือข้อมูลขยะที่ทำหน้าที่ฉุดรั้งชีวิตของบุคคลนั้นๆ ให้ประสบกับปัญหาซ้ำๆเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น ชีวิตที่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัญหาเรื่องหนี้สินและเงินทอง ปัญหาเรื่องความรักและครอบครัวที่ไม่สมหวัง รวมไปถึงพฤติกรรมบางอย่างที่แก้ไขได้ยาก เช่น ขี้โมโห เครียดง่าย ปล่อยวางได้ยาก ไม่มีแรงบันดาลใจ และอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้เกิดความทุกข์
ดังนั้น ในกระบวนการโค้ชส่วนตัว จะเป็นกระบวนการที่ขจัดปัญหาเหล่านี้ที่เป็นขยะที่ตกค้างภายในจิตใจ และทำการปรับเปลี่ยนระบบข้อมูลความเชื่อใหม่เพื่อให้สามารถเข้าสู่ชีวิตที่มีความสุข ประสบความสำเร็จ พบกับความมั่งคั่งร่ำรวย สมหวังในความรักและเยียวยาความสัมพันธ์ในครอบครัว
—>>> ขั้นตอนในกระบวนการโค้ชส่วนตัวมีอะไรบ้าง ?
ในเบื้องต้น กระบวนการโค้ชส่วนตัวมี 3 ขั้นตอนหลักในการเปลี่ยนแปลงระบบจิตดังนี้
—>>> 1. การผ่อนคลายจิต เป็นการให้ผู้เข้ารับการโค้ชนอนบนเตียงหรือเก้าอี้นอน และนักโค้ชจะนำจิตให้เข้าสู่สภาวะของการผ่อนคลาย โดยให้คลื่นสมองเข้าสู่ระดับ Alpha Wave (8-12 Hertz) เป็นหลัก ซึ่งไม่ได้จำเป็นต้องเข้าสู่ระดับภวังค์หรือ Theta Wave (4-8 Hertz) เสมอไป
—>>> 2. เข้าสู่การโค้ช ขั้นตอนถัดไปนี้ นักโค้ชจะทำการสอบถามข้อมูลจากผู้เข้ารับการโค้ช ซึ่งจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผู้เข้ารับการโค้ชจะบอกกล่าวแก่นักโค้ชที่อยู่ภายในห้องเท่านั้น ดังนั้นเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นความลับระหว่างนักโค้ชและผู้ที่ถูกโค้ช
ซึ่งตรงจุดนี้นี่เองที่นักโค้ชจะทำการเปลี่ยนความทรงจำของจิตเพื่อคลี่คลายปมปัญหาของผู้ถูกโค้ช โดยจะนำกระบวนการให้ผู้ถูกโค้ชมองเห็นภาพรวมของปัญหาอีกครั้งถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ลึกภายในจิตใต้สำนึก และแก้ปมปัญหานั้นด้วยจิตที่เป็น “ปัญญา” ของผู้ที่ถูกโค้ชเอง
โดยที่นักโค้ชมีหน้าที่เพียงเหนี่ยวนำให้จิตของผู้ถูกโค้ชเกิดสภาวะของปัญญาและแก้ปมด้วยตนเองเท่านั้น โดยมิได้นำความคิดหรือการตัดสินของนักโค้ชเข้าไปแนะนำจิตของผู้ถูกโค้ชแต่อย่างใด
—>>> 3. โปรแกรมจิต หลังจากที่ผู้ถูกโค้ชได้เข้าไปแก้ไขและเปลี่ยนความทรงจำในจิตซึ่งเป็นข้อมูลเดิมที่เป็นอุปสรรค ในขั้นตอนนี้นักโค้ชจะทำการเปลี่ยนข้อมูลในระบบจิตใหม่ให้เป็นข้อมูลเชิงบวกและเป็นข้อมูลที่ผู้ถูกโค้ชต้องการ เป็นการเชื่อมต่อและตอกย้ำความเข้าใจใหม่ให้กับจิตใต้สำนึกให้สมบูรณ์ที่สุดเพื่อที่ผู้เข้ารับการโค้ชจะไม่กลับไปสู่วงจรเดิมที่เป็นปัญหาอีกต่อไป และเข้าสู่วงจรชีวิตใหม่ตามที่ใจปรารถนา
และในขั้นตอนท้ายที่สุดของกระบวนการโค้ชส่วนตัว คือการเข้าสู่กระบวนการ Spiritual Jumping โดยท่านอาจารย์สถิตธรรม จะเข้ามาเชื่อมกระแสคลื่นความถี่เข้าสู่สมอง เพื่อเชื่อมต่อวงจรประสาทของพฤติกรรมภายในสมองให้เข้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุด และเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการโค้ชส่วนตัวอย่างเต็มรูปแบบ
—>>> โค้ชส่วนตัวแค่ครั้งเดียว สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ทันทีเลยหรือไม่?
กล่าวได้ว่าในสภาวจิตภายในของแต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน เปรียบเสมือนกับการที่เราไปพบแพทย์แล้วมีสภาพร่างกายที่แตกต่าง เช่น บางคนมีโรคประจำตัว มีความดัน โรคหัวใจ ซึ่งก็แบ่งไปตามความหนักเบาในการรักษา
เช่นเดียวกันกับระบบจิต ที่แต่ละคนมีจำนวนข้อมูลขยะที่และพื้นฐานของสภาวจิตที่ต่างกัน ดังนั้นประสิทธิภาพในการโค้ชของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกัน โดยบางคนชีวิตอาจเปลี่ยนแปลงได้ทันทีในครั้งแรก แต่สำหรับบางคนอาจต้องโค้ชถึง 4-5 ครั้ง เพื่อเห็นผลที่ชัดเจนที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในการโค้ชส่วนตัวย่อมเกิดผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากการเปลี่ยนแปลงระบบจิตนับตั้งแต่ครั้งแรกกับทุกคน เพียงแต่การโค้ชเพิ่มเติมต่อเนื่อง 3-4 ครั้งก็ย่อมทำให้ชีวิตเกิดการ เปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดและรวดเร็ว
ดังนั้น ในระบบการโค้ชส่วนตัวที่จะได้ผลดีที่สุดจากสถิติโดยเฉลี่ย คือการเข้าโค้ชส่วนตัวติดต่อกันอย่างน้อย 4 ครั้ง ซึ่งทำให้กระบวนการของจิตและชีวิตเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนที่สุด
——————————————————————————
—>>> โปรแกรมโค้ชส่วนตัว แตกต่างจากโปรแกรมอื่นๆของ The Master Coach Academy อย่างไรบ้าง?
โปรแกรมโค้ชส่วนตัว ถือว่าเป็นโปรแกรมที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของโปรแกรมทั้งหมดใน The Master Coach Academy ซึ่งจะไปจัดการในระบบที่เป็นปมปัญหาส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่บางครั้งไม่สามารถทราบปมที่ซ่อนลึกๆนั้นได้ด้วยตนเอง
ดังนั้น ในกระบวนการโค้ชกลุ่มหรือโค้ชตัวเองที่บ้านก็อาจมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับการที่มีผู้เชี่ยวชาญที่จะทำการปลดล็อคระบบจิตให้ จึงแนะนำว่า หากมีโอกาสควรเข้าสู่โปรแกรมโค้ชส่วนตัวอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุด
——————————————————————————
—>>> การโค้ชส่วนตัว คือการสะกดจิตหรือไม่?
การโค้ชส่วนตัวเป็นการรีวิวและแก้ระบบจิตด้วยการให้จิตของผู้ถูกโค้ชเข้าไปมองเห็นเหตุของปัญหานั้นด้วยตนเองและร่วมกันแก้ปมปัญหาเหล่านั้นกับนักโค้ช ซึ่งในระหว่างกระบวนการ ผู้รับการโค้ชจะรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจากการสะกดจิตที่ผู้เข้ารับกระบวนการจะต้องเข้าสู่ภวังค์
ดังนั้นวิธีที่ใช้ในกระบวนการโค้ชส่วนตัวจะเป็นเทคนิคของการแก้ปมปัญหาและสั่งจิตซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ The Master Coach Academy ที่มีศาสตร์และศิลป์ในการเปลี่ยนระบบจิตในรูปแบบเฉพาะตัว
——————————————————————————
— >>> ประสบการณ์จากผู้ที่ผ่านโปรแกรมโค้ชส่วนตัว —-
(1) คุณต้อม พญาบาล https://youtu.be/1ypxwcHYZbU
(2) คุณณัฐ ช่างตัดผม https://youtu.be/eWWTOl8kikk
(3) ประสบการณ์การโค้ช อาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข https://youtu.be/q6QC-MhGbOA
(4) ประสบการณ์การโค้ชส่วนตัว น้องแพร https://youtu.be/Fi6nWAocuWs
(5) ประสบการณ์ Jumping จิตใต้สำนึก คุณเชอรี่ https://youtu.be/YH4ECoQTSuo
ดูคลิปวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่
1.Youtube : The Master Coach Academy
2.Youtube : Powerlifes Soul
3.Youtube : Spiritual Jumping Channel
The Master Coach Academy
ศูนย์พัฒนาพลังชีวิต 2/1 ถนนประดิพัทธิ์ 10 สามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400
061-632 8796 ,092- 365 6554
Line ID: 0923656554
Email : usopowerlife@gmail.com
เว็บไซต์ :http://lifecoachingthailand.org/
——————————————————————————
Our Program
1. “Jumping Coaching ” คลิกดูรายละเอียด –> https://spiritualwavelink.wordpress.com/2017/03/14/%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%86-%E0%B8%94%E0%B9%89/
2. พลังจิตใต้สำนึก ความลับทางจิตวิญญาณ คลิกดูรายละเอียด –>https://youtu.be/hNPxFC7Qm5U
3. โปรแกรมโค้ชส่วนตัว ปลดล็อคชีวิต คลิกดูรายละเอียด –>https://youtu.be/USm0TeScyBQ
4. หนังสือ โค้ชพลังจิต คลิกดูรายละเอียด –>http://powerlifes.weebly.com/
The Master Coach Academy
2/1 ซ.ประดิพัทธ์ 10,ถ.ประดิพัทธ์ สี่แยกสะพานควาย กรุงเทพฯ 10400
โทร 092-365 6554,061-632 8796
เวลาทำการ [ อังคาร – ศุกร์ เวลา 10:00 – 18:00 ] [ เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09:30 – 18:00 ]