83609962_1599438156899583_1110200457050980352_o

ทุกอย่างเมื่อเรามีสติแล้ว เราจะรู้อาการของสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เมื่อสิ่งไหนเรารู้เราเห็น..สิ่งนั้นมันจะค่อยๆดับลง เพราะอะไรจ๊ะ ที่เราไม่รู้นั่นคือ”อวิชชา” พอไปรู้อวิชชา..ตัวรู้ที่ไปรู้อวิชชามันจะเริ่มดับลง นิโรธมันก็เลยบังเกิด มันก็เป็นธรรมดาของมัน ปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้ ทุกข์กายทุกข์ใจล้วนแต่เกิดจากอวิชชาคือความไม่รู้ เมื่อไปรู้เหตุเพ่งดูมันก็จะค่อยๆดับของมัน

แต่ถ้าสิ่งไหนที่มันเกิดขึ้นมายาวนานแล้วมากำหนดรู้..มันไม่ได้หายไปในทีเดียว เพราะมันก่อตัวมานานนั่นเอง เข้าใจมั้ยจ๊ะ นั่นถ้าเราเพ่งดู กำหนดรู้ ละอารมณ์อยู่บ่อยๆ ทีนี้มันจะเท่าทัน เหมือนที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี พระอริยสงฆ์เจ้าก็ดี..โทสะ โมหะ โลภะมีมั้ย..มี แต่ท่านฝึกละอารมณ์จนชินแล้ว เป็นฌานแล้วเป็นญาณแล้ว เมื่อมีโทสะ..กำหนดรู้..ก็หายไปทันทีในบัดดล เห็นมั้ยจ๊ะ ก็เช่นเดียวกัน

นั้นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่มันยังไม่ละไม่ดับไม่หายไปเพราะอะไร มันสะสมก่อตัวมาเป็นภพเป็นชาติ เหมือนมันพอกพูนนั่นเอง มันพอกมาหนา พอโยมจะไปขัดถูมันง่ายๆวันเดียว..สองวัน..สามวันในขณะนั้น แป๊บเดียวเอาตามที่โยมปรารถนา..มันจะออกมั้ยจ๊ะ

เหมือนทุกข์ตัวนี้ พอมันเกิดเวทนา เหมือนหินก้อนนึงโยมไปทุบมันเป๊กเดียวหินจะแตกมั้ยจ๊ะ มันไม่สามารถที่จะแตกได้ หินมันไม่สะเทือนอะไรเลย อ้าว..ก็ตีแค่ครั้งเดียวเอง แต่หินนี่กว่าจะมาเป็นหินมันเป็นน้ำก่อน เป็นลาวาก่อน กว่ามันจะก่อตัวออกมาดิน น้ำ ลม ไฟมีความผนึกแข็งขึ้นมา มันก่อตัวเป็นร้อยๆปี หรือเรียกว่ามนุษย์เกิดมาเป็นร้อยๆชาติ แล้วโยมมาไล่..มึงออกไป..นี่ของกู มันไปมั้ยจ๊ะ..มันไม่ไป มันฝังชิพไปแล้วว่านี่ตัวกู นี่ลูกหินก้อนนี้กูสร้างมา ลาวานี้คือของกู ธาตุขันธ์นี้ก็ของกู มึงออกไป..จะออกไปได้ยังไง..

ที่ฉันบอกว่าออกไป ทุกข์ออกไปกูไม่เอา..สลัดไม่ได้ เพราะว่ามันยึด มันเป็นอุปาทานแล้ว สัมปทานแล้วนี่มันของกู เกิดมาแล้วบอกชื่อใคร..ชื่อนายนี่นายนั่นตั้งมาแล้ว พอบอกว่านายนี่มามั้ย..มา ขานหมด รับหมด เอาหมด เข้าใจมั้ยจ๊ะ แล้วไอ้หินก้อนนี้จะทุบให้มันแตกพอมันมีทุกข์ พอนั่งแล้วทนจะให้มันแตกให้มันสลาย ให้มันคลายจากทุกข์ มันทำได้มั้ย..ทำได้ แต่ความอดทนในความเพียรขันติโยมมากน้อยเพียงใด

เพราะว่าหินก้อนนี้ก้อนทุกข์ก้อนชาติมันก่อเกิดมาเป็นร้อยปี แข็งจนเป็นฟอสซิลแล้วนี่ เป็นของวัตถุโบราณไปแล้ว แล้วโยมไปทำลายมันทีเดียวได้มั้ยจ๊ะ..ไม่มีทางหรอกจ้ะ แล้วจะทำยังไงทีนี้ ตีมันทุกวัน เคาะมันทุกวัน ให้มันรู้สติ ปลุกตื่น ตื่น ตื่น ตื่น ตื่น นั้นที่ว่าหินนี้ก็ดี มันเป็นภพเป็นชาติ มันจะตีทีเดียวสลายไปทีเดียวให้มันตายไม่ได้ ไปข่มมันอย่างนั้นตายเลย โง่ตายเลยแบบนั้นน่ะ เข้าใจมั้ยจ๊ะ

เค้าให้รู้ว่าทุกข์มันอยู่ที่ไหน เหมือนที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าท่านรู้ทุกข์ว่าทุกข์อยู่ที่กาย ตามหาตั้งนาน พอมานั่งดู..อยู่ในนี้เอง อยู่ในกาย ไปตามหาใต้ต้นนั้นต้นนี้..ไม่มี ต้นชาติที่แท้จริงอยู่ในกาย แล้วหินก้อนนี้มันเกิดขึ้นมา..กองทุกข์มันรัดจนกลมกลืนเลย กลมกลืนคือกลายเป็นตัวเดียวกับเราเลย เราเลยไม่รู้ว่าเขาหรือเรากันแน่ แท้ที่จริงพอทำกรรม..เอ๊ะเราไปทำรึเปล่า หรือใครสั่งให้ทำ เลยมีจิตอยู่สองดวงทีนี้อาศัยอยู่ในตัวเรา ก็คือดวงที่ดีกับไม่ดี

ทำไมถึงเกิดขึ้นดวงดีกับไม่ดี ไอ้สองตัวมีวิชชากับอวิชชา ก็สิ่งก่อนที่โยมทำมาทำทั้งดีและไม่ดี มันจึงมีอารมณ์สองตัวนี้ พอโยมดับไปตายไปมันก็ตามโยมไปไม่ว่าจะอยู่ภพชาติไหนก็ตามโยมไป มันเป็นเงา เข้าใจมั้ยจ๊ะ แล้วทำยังไงล่ะทีนี้ โยมก็ต้องดูว่ากรรมตัวชั่วโยมทำมามากมั้ย ถ้าโยมทำมามากไอ้ตัวชั่วนั่นก็เสวยกรรมให้ผลมากกว่ากรรมดี

บางคนบอกว่าไม่ค่อยเจอดีเลย เจอแต่แย่ๆทั้งนั้น ก็โยมไปทำแต่สิ่งแย่ๆมา อ้าว..ในเมื่ออดีตมันแก้ไขไม่ได้ก็ทำในปัจจุบันสิ ทำสร้างความดีขึ้นมาใหม่ อย่าไปบอกว่าจะลบรอยกรรมเก่า..ไม่ใช่ แต่ทำให้มันมีมาก พอมีมากแล้วกรรมที่ในอดีตกรรมชั่วมันก็ให้ผลได้ยาก พอมันให้ผลได้ยากทีนี้กรรมดีมันเริ่มมีหน้าที่ มันเริ่มมีบทบาทบ้างแล้วทีนี้..แล้วมันก็มาเสวยทีนี้

นั้นอย่าได้น้อยใจท้อแท้ในวาสนาว่าเจอแต่สิ่งไม่ดีเลย..ไม่ยาก พอมันเกิดมาแล้วไปแก้ไขในอดีตไม่ได้ ทำสร้างกรรมดีขึ้นมาใหม่ พอทำกรรมดีขึ้นมาใหม่แล้วทีนี้แล้วมันจะไปพยุงกรรมชั่ว พอพยุงกรรมชั่วไอ้กรรมดีที่เราเคยทำมาในอดีตมันจะมาส่งผลแล้วทีนี้..นี่เคล็ดลับมันอยู่ตรงนี้ เข้าใจมั้ยจ๊ะ

มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
โทร ๐๙๕ ๕๖๙๕๑๙๙ , ๐๘๑ ๙๒๙๓๒๒๒

 

CR: ขอบคุณภาพและข้อความจาก ธรรมะมหัศจรรย์ ตามรอยธรรมสมเด็จโต สถานปฏิบัติธรรมพรหมรังสี