64

 

“คุณกำหนดทางออกของชีวิตได้”
 
 
● ผมมักกล่าวกับลูกศิษย์อยู่เสมอว่า…
ถ้าเดินทางออกจากบ้าน…
จะพบประสบการณ์ที่หลากหลาย
เมื่ออ่านหนังสือ…
จะได้พบเรื่องราวความทรงจำของผู้อื่น
 
.
● ถ้าหาประสบการณ์ด้วยการไปอยู่ในโลกภายนอก
จะพบกับความจริงมากมายที่ไม่เคยรู้
 
.
● ผมขอย้ำอีกครั้งว่า…
การค้นหาจุดมุ่งหมาย
ของจิตวิญญาณเป็นเรื่องสูงส่ง
 
.
● จงให้เสียงภายในกระตุ้น
หรือบอกเส้นทางที่แท้จริงให้กับตัวคุณ
 
 
.
● ให้คุณสามารถลุกขึ้นเดิน
ออกจากบ้านไปสู่โลกกว้าง
เพื่อค้นหาความหมายของชีวิต
 
.
● ซึ่งก็คือ…
จุดมุ่งหมายของดวงวิญญาณ นั่นเอง
 
.
● จงอย่าปล่อยให้เวลาสูญเปล่าไป
ในแต่ละวัน…
แต่ละเดือน…
แต่ละปี
 
 
.
● เพราะจมอยู่กับชีวิตที่ซ้ำซาก แบบเดิม ๆ
จนลืมไปว่าคุณไม่ได้เกิดมา
เพียงแค่มีงานทำ มีรายได้ไปวัน ๆ
แล้วจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีสิ่งใดให้จดจำ
 
 
.
● แต่คุณควรเรียนรู้ชีวิต
ด้วยประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่
และค้นหาโอกาสที่ดี
แห่งการแสวงหาเส้นทางสู่โลกภายนอก
 
.
● ประสบการณ์จากโลกภายนอก
จะสอนให้คุณรู้ซึ้งถึงจุดมุ่งหมาย
ที่แท้จริงของจิตวิญญาณ.
 
 
 
ชีวิตที่แท้จริงคืออะไร?
 
 
 
ชีวิตที่ไม่ใช่แค่อยู่เพื่อมีงานทำ ชีวิตที่ไม่ใช่แค่ตนเองรู้สึกว่ามั่นคง มีรายได้ดี มีบ้าน มีสถานภาพของความเป็นมนุษย์ที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบ เพียบพร้อม มั่งคั่งร่ำรวย ซึ่งความรู้สึกแบบนี้สำหรับผมถือว่าเป็นความรู้สึกเบื้องต้นของมนุษย์ทั่วไป แต่เมื่อใดที่เราเข้าใจความจริงของชีวิตและจักรวาล เราจะรู้ว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อแสวงหาความมั่นคงหรือความมั่งมีศรีสุขในความเป็นมนุษย์เท่านั้น เรามีบทบาทและหน้าที่ที่เหนือล้ำกว่า…สูงสุดกว่าและยอดเยี่ยมกว่านั้น
 
 
 
ผมบอกไม่ได้ว่าชีวิตที่แท้จริงของคุณเป็นแบบไหน แต่ชีวิตที่แท้จริงก็คือการเป็นผู้ที่มีความสุขกับชีวิต ดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้อย่างปลอดภัย ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนตนเอง มีชีวิตอยู่อย่างงดงาม เข้าใจชีวิต และเข้าใจตัวเอง
 
 
ผมมีเพื่อนเป็นนักลงทุน นักเล่นหุ้น มีลูกศิษย์เป็นนักการเมือง เป็นผู้นำธุรกิจ เป็นนักกีฬาทีมชาติ ผมรู้ว่าทุกคนล้วนแน่วแน่ที่จะโดดเด่นในอาชีพหรือสิ่งที่เขาดำรงอยู่ แต่ผมพบว่าหลายคนขาดแคลน
 
 
พวกเขาขาดแคลนความสุข ขาดแคลนความรักที่แท้จริง ขาดแคลนความดื่มด่ำในชีวิตที่ยิ่งใหญ่ เขาไม่รู้เป้าหมายที่สูงสุดในชีวิตของเขา ซึ่งไม่ใช่แค่การมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ แต่รวมถึงหลังจากที่พวกเขาจากโลกนี้ไปแล้ว
 
 
สิ่งที่พวกเขาเคยกระทำเมื่อมีชีวิตอยู่ต่างหาก คือความหมายที่แท้จริงที่จะทำให้พวกเขาเข้าถึงความยอดเยี่ยมของชีวิต
 
 
มีคำกล่าวที่ว่า “ความยอดเยี่ยมไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่มีที่สิ้นสุด แต่คุณต้องยอดเยี่ยมไปตลอดชีวิต”
 
 
 
 
 
บ่อยครั้งที่คนเราก็สงสัยตัวเองว่า เราจะไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นได้อย่างไร เราจะเข้าใจได้อย่างไรว่า อะไรคือจุดสูงสุดที่เราปรารถนา
 
 
 
คำตอบที่ผมมีให้ก็คือ ต้องเรียนรู้และค้นหาด้วยตัวคุณเองว่า…คุณต้องการอะไรกันแน่ !
 
 
 
คุณต้องการมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ต้องการทำงานไปวัน ๆ ในวันหนึ่งทำงาน 10 กว่าชั่วโมงไปตลอดชีวิต หรือทำงานอย่างมีความสุขและไม่กดดัน มีรายได้พอเพียง ผลตอบแทนที่ได้รับยอดเยี่ยมอย่างสมคุณค่า
 
 
 
 
ผู้คนส่วนใหญ่ติดค้างอยู่กับโลกภายนอกโดยไม่รู้ตัว ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ที่ทำให้เราต้องส่งจิตออกนอกตัว หรือไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องราวและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมภายนอกมากมาย จนทำให้จิตใจภายในของเรายุ่งเหยิง วุ่นวาย ขาดประสิทธิภาพที่จะมีความสุขหรือหยั่งรู้ธรรมชาติที่แท้จริงในตัวเขาเอง และในที่สุดก็หลงทาง…
 
 
*
 
 
 
 
โลกภายนอกก็คือผู้คน สังคม และสิ่งล่อใจทั้งหลายทั้งปวง
 
 
 
โลกภายในก็คือความตระหนักรู้ การกลับมารู้สึกตัวและเข้าใจตัวเอง
 
 
โลกภายในจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่สร้างความตื่นรู้ของโลกภายในตัวเรา ซึ่งเป็นตัวประสานระหว่างโลกภายนอกและโลกภายใน
 
 
*
 
 
 
โลกภายใน ได้แก่ ความคิด ความจำ และความรู้สึก
 
 
 
ขณะที่โลกภายนอกมีการแสดงออก ทั้งคำพูดและการกระทำ
 
 
*
 
 
 
ยิ่งโลกภายนอกในยุคปัจจุบันดึงดูดเราให้หลงจมอยู่กับเทคโนโลยี และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำให้โอกาสที่เราจะเข้าถึงโลกภายในสูญสลายไปอย่างน่าเสียดาย
 
 
*
 
 
ผมอยากบอกว่าโลกภายในทำให้เราพบความสุขที่แท้จริง
 
 
โลกภายในทำให้เราพบชีวิตที่ยิ่งใหญ่
 
 
โลกภายในทำให้เราเข้าใจตัวเราเองอย่างลึกซึ้ง
 
 
*
 
 
 
โลกภายในทำให้เราปลดล็อกความวุ่นวายจากโลกภายนอกได้อย่างแท้จริง
 
 
และสิ่งสำคัญที่เราต้องทำในวันนี้คือ เราต้องปลดปล่อยโลกภายนอกให้ได้ก่อน
 
 
*
 
 
 
เราต้องตัดความวุ่นวายและความรับรู้ในการเก็บข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าการดูโทรทัศน์ ฟังข่าวร้าย ฟังเรื่องราวด้านลบ ฟังคนพูดจาแต่เรื่องไม่ดี เป็นต้น
 
 
*
 
 
 
หากเราเปิดรับแต่เรื่องราวในด้านลบอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดโลกภายนอกก็จะเข้ามาคุมโลกภายใน เราจะไม่ได้พบความสงบสุขเลย แต่ละวันมีเรื่องราวที่ทำให้ทุกข์ทรมานใจ ทำให้เราไม่มีความสุข ทำให้เรารู้สึกถูกกดดัน
 
 
*
 
 
 
ฉะนั้น จำเป็นต้องปลดปล่อยโลกภายนอกก่อนจึงจะทำให้โลกภายในเกิดความตื่นรู้ เมื่อปลุกโลกภายในให้ตื่นขึ้นได้ก็ทำให้โลกภายนอกสลายไปได้โดยฉับพลัน นี่คือความจริงของการโค้ชชีวิตหรือโค้ชตัวเองในระดับของโค้ชพลังจิต เพื่อให้เราเข้าถึงพลังอย่างไร้ขีดจำกัด และเข้าถึงความตระหนักรู้ของชีวิตอย่างแท้จริง
 
 
*
 
– โค้ชส่วนตัว ปลดล็อคชีวิต
 
 
 
กระบวนการโค้ชส่วนตัว คือกระบวนการเปลี่ยนระบบจิตภายใน ทั้งระบบจิตใต้สำนึกและจิตไร้สำนึก ที่เป็นระบบจิตภายในที่ควบคุมพฤติกรรม รวมถึงกำหนดชะตาชีวิตของแต่ละบุคคลผ่านความทรงจำในอดีต ซึ่งความทรงจำเหล่านี้นี่เองที่เปรียบเสมือนปมปัญหาทั้งหลายจนกลายเป็นขยะทางความคิดและอารมณ์ที่ถูกพอกพูนจนกลายเป็น “ความเชื่อ”
 
 
 
หรือข้อมูลขยะที่ทำหน้าที่ฉุดรั้งชีวิตของบุคคลนั้นๆ ให้ประสบกับปัญหาซ้ำๆเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น ชีวิตที่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัญหาเรื่องหนี้สินและเงินทอง ปัญหาเรื่องความรักและครอบครัวที่ไม่สมหวัง รวมไปถึงพฤติกรรมบางอย่างที่แก้ไขได้ยาก เช่น ขี้โมโห เครียดง่าย ปล่อยวางได้ยาก ไม่มีแรงบันดาลใจ และอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้เกิดความทุกข์
 
 
 
 
 
 
ดังนั้น ในกระบวนการโค้ชส่วนตัว จะเป็นกระบวนการที่ขจัดปัญหาเหล่านี้ที่เป็นขยะที่ตกค้างภายในจิตใจ และทำการปรับเปลี่ยนระบบข้อมูลความเชื่อใหม่เพื่อให้สามารถเข้าสู่ชีวิตที่มีความสุข ประสบความสำเร็จ พบกับความมั่งคั่งร่ำรวย สมหวังในความรักและเยียวยาความสัมพันธ์ในครอบครัว
 
 
 
 
—>>> ขั้นตอนในกระบวนการโค้ชส่วนตัวมีอะไรบ้าง ?
 
 
 
ในเบื้องต้น กระบวนการโค้ชส่วนตัวมี 3 ขั้นตอนหลักในการเปลี่ยนแปลงระบบจิตดังนี้
 
 
 
—>>> 1. การผ่อนคลายจิต เป็นการให้ผู้เข้ารับการโค้ชนอนบนเตียงหรือเก้าอี้นอน และนักโค้ชจะนำจิตให้เข้าสู่สภาวะของการผ่อนคลาย โดยให้คลื่นสมองเข้าสู่ระดับ Alpha Wave (8-12 Hertz) เป็นหลัก ซึ่งไม่ได้จำเป็นต้องเข้าสู่ระดับภวังค์หรือ Theta Wave (4-8 Hertz) เสมอไป
 
*
 
 
 
—>>> 2. เข้าสู่การโค้ช ขั้นตอนถัดไปนี้ นักโค้ชจะทำการสอบถามข้อมูลจากผู้เข้ารับการโค้ช ซึ่งจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผู้เข้ารับการโค้ชจะบอกกล่าวแก่นักโค้ชที่อยู่ภายในห้องเท่านั้น ดังนั้นเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นความลับระหว่างนักโค้ชและผู้ที่ถูกโค้ช
 
*
 
ซึ่งตรงจุดนี้นี่เองที่นักโค้ชจะทำการเปลี่ยนความทรงจำของจิตเพื่อคลี่คลายปมปัญหาของผู้ถูกโค้ช โดยจะนำกระบวนการให้ผู้ถูกโค้ชมองเห็นภาพรวมของปัญหาอีกครั้งถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ลึกภายในจิตใต้สำนึก และแก้ปมปัญหานั้นด้วยจิตที่เป็น “ปัญญา” ของผู้ที่ถูกโค้ชเอง
 
*
 
 
โดยที่นักโค้ชมีหน้าที่เพียงเหนี่ยวนำให้จิตของผู้ถูกโค้ชเกิดสภาวะของปัญญาและแก้ปมด้วยตนเองเท่านั้น โดยมิได้นำความคิดหรือการตัดสินของนักโค้ชเข้าไปแนะนำจิตของผู้ถูกโค้ชแต่อย่างใด
 
*
 
—>>> 3. โปรแกรมจิต หลังจากที่ผู้ถูกโค้ชได้เข้าไปแก้ไขและเปลี่ยนความทรงจำในจิตซึ่งเป็นข้อมูลเดิมที่เป็นอุปสรรค ในขั้นตอนนี้นักโค้ชจะทำการเปลี่ยนข้อมูลในระบบจิตใหม่ให้เป็นข้อมูลเชิงบวกและเป็นข้อมูลที่ผู้ถูกโค้ชต้องการ เป็นการเชื่อมต่อและตอกย้ำความเข้าใจใหม่ให้กับจิตใต้สำนึกให้สมบูรณ์ที่สุดเพื่อที่ผู้เข้ารับการโค้ชจะไม่กลับไปสู่วงจรเดิมที่เป็นปัญหาอีกต่อไป และเข้าสู่วงจรชีวิตใหม่ตามที่ใจปรารถนา
 
*
 
 
 
 
และในขั้นตอนท้ายที่สุดของกระบวนการโค้ชส่วนตัว คือการเข้าสู่กระบวนการ Spiritual Jumping โดยท่านอาจารย์สถิตธรรม จะเข้ามาเชื่อมกระแสคลื่นความถี่เข้าสู่สมอง เพื่อเชื่อมต่อวงจรประสาทของพฤติกรรมภายในสมองให้เข้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุด และเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการโค้ชส่วนตัวอย่างเต็มรูปแบบ
 
 
 
*
 
—>>> โค้ชส่วนตัวแค่ครั้งเดียว สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ทันทีเลยหรือไม่?
 
 
กล่าวได้ว่าในสภาวจิตภายในของแต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน เปรียบเสมือนกับการที่เราไปพบแพทย์แล้วมีสภาพร่างกายที่แตกต่าง เช่น บางคนมีโรคประจำตัว มีความดัน โรคหัวใจ ซึ่งก็แบ่งไปตามความหนักเบาในการรักษา
 
 
 
เช่นเดียวกันกับระบบจิต ที่แต่ละคนมีจำนวนข้อมูลขยะที่และพื้นฐานของสภาวจิตที่ต่างกัน ดังนั้นประสิทธิภาพในการโค้ชของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกัน โดยบางคนชีวิตอาจเปลี่ยนแปลงได้ทันทีในครั้งแรก แต่สำหรับบางคนอาจต้องโค้ชถึง 4-5 ครั้ง เพื่อเห็นผลที่ชัดเจนที่สุด
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ในการโค้ชส่วนตัวย่อมเกิดผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากการเปลี่ยนแปลงระบบจิตนับตั้งแต่ครั้งแรกกับทุกคน เพียงแต่การโค้ชเพิ่มเติมต่อเนื่อง 3-4 ครั้งก็ย่อมทำให้ชีวิตเกิดการ เปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดและรวดเร็ว
 
 
 
ดังนั้น ในระบบการโค้ชส่วนตัวที่จะได้ผลดีที่สุดจากสถิติโดยเฉลี่ย คือการเข้าโค้ชส่วนตัวติดต่อกันอย่างน้อย 4 ครั้ง ซึ่งทำให้กระบวนการของจิตและชีวิตเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนที่สุด
 
 
*
 
——————————————————————
 
—>>> โปรแกรมโค้ชส่วนตัว แตกต่างจากโปรแกรมอื่นๆของ The Master Coach Academy อย่างไรบ้าง?
 
 
 
โปรแกรมโค้ชส่วนตัว ถือว่าเป็นโปรแกรมที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของโปรแกรมทั้งหมดใน The Master Coach Academy ซึ่งจะไปจัดการในระบบที่เป็นปมปัญหาส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่บางครั้งไม่สามารถทราบปมที่ซ่อนลึกๆนั้นได้ด้วยตนเอง
 
 
 
 
ดังนั้น ในกระบวนการโค้ชกลุ่มหรือโค้ชตัวเองที่บ้านก็อาจมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับการที่มีผู้เชี่ยวชาญที่จะทำการปลดล็อคระบบจิตให้ จึงแนะนำว่า หากมีโอกาสควรเข้าสู่โปรแกรมโค้ชส่วนตัวอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุด
 
 
 
——————————————————————
 
 
—>>> การโค้ชส่วนตัว คือการสะกดจิตหรือไม่?
 
 
 
การโค้ชส่วนตัวเป็นการรีวิวและแก้ระบบจิตด้วยการให้จิตของผู้ถูกโค้ชเข้าไปมองเห็นเหตุของปัญหานั้นด้วยตนเองและร่วมกันแก้ปมปัญหาเหล่านั้นกับนักโค้ช ซึ่งในระหว่างกระบวนการ ผู้รับการโค้ชจะรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจากการสะกดจิตที่ผู้เข้ารับกระบวนการจะต้องเข้าสู่ภวังค์
 
 
 
ดังนั้นวิธีที่ใช้ในกระบวนการโค้ชส่วนตัวจะเป็นเทคนิคของการแก้ปมปัญหาและสั่งจิตซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ The Master Coach Academy ที่มีศาสตร์และศิลป์ในการเปลี่ยนระบบจิตในรูปแบบเฉพาะตัว
 
 
—————————————————————-
 
 
อาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข
ครูทางจิตวิญญายุคใหม่
 
 
*
 
และด้วยการพัฒนาระบบ SLP อย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ ท่านจะได้พบกับโปรแกรมพิเศษ“Miracle Jumping” ที่ท่านสามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้กับชีวิตของท่านได้ด้วยตัวท่านเองแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ The Master Coach Academy
 
 
พิเศษสุด! สำหรับผู้ที่สนใจโค้ชส่วนตัวกับท่านอาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข โดยตรง หลังจากที่ท่านอาจารย์เดินทางไปฝึกฝนจิตที่หิมาลัย ทิเบต และสถานที่สำคัญๆ ทั่วโลก อีกทั้งยังได้เรียนพลังจักรวาลขั้นที่ 6 ซึ่งท่านอาจารย์เหลือง มิ๋น ด๋าง อนุญาติให้เรียนเป็นกรณีพิเศษโดยเฉพาะ โดยไม่ต้องเรียนตามลำดับขั้นเลย เพราะฉะนั้นวิธีการของท่านอาจารย์จึงพิเศษมากๆๆครับ
 
 
 
สนใจลงทะเบียนโค้ชส่วนตัว โทร : พล 061 – 632 8796 ,092-361 5346
 
Line ID: 092 365 6554
 
 
—————————————————–
 
 
— >>> ประสบการณ์จากผู้ที่ผ่านโปรแกรมโค้ชส่วนตัว —-
 
 
(1) คุณณัฐ ช่างตัดผม https://youtu.be/eWWTOl8kikk
 
(2) ประสบการณ์การโค้ช อาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข https://youtu.be/q6QC-MhGbOA
 
(3) ประสบการณ์การโค้ชส่วนตัว น้องแพร https://youtu.be/Fi6nWAocuWs
 
(4) ประสบการณ์ Jumping จิตใต้สำนึก คุณเชอรี่ https://youtu.be/YH4ECoQTSuo
 
 
 
—————————————————-
 
คอร์สออนไลน์ ตั้งรหัสจิตดึงดูดความสำเร็จ https://goo.gl/wQpfDk
 
 
 
 
 
 
The Master Coach Academy
2/1 ซ.ประดิพัทธ์ 10,ถ.ประดิพัทธ์ สี่แยกสะพานควาย กรุงเทพฯ 10400
 
โทร 092-365 6554,092-361 5346
เวลาทำการ [ อังคาร – ศุกร์ เวลา 10:00 – 18:00 ] [ เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09:30 – 18:00 ]